KBTG ชู 'Human First, AI First' พลิกโฉมธนาคาร ที่ Huawei Summit

KBTG ชู ‘Human First, AI First’ พลิกโฉมธนาคาร ที่ Huawei Summit

อนาคตของธนาคารในยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร? KBTG กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีแห่งธนาคารกสิกรไทย ได้ให้คำตอบที่ชัดเจนและน่าสนใจผ่านยุทธศาสตร์ “Human First, AI First” ที่งาน Huawei Thailand Digital & AI Summit 2025

ดร. ทัดพงศ์ พงศ์ถาวรกมล กรรมการผู้จัดการ บริษัท กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป เผยวิสัยทัศน์ “Human First, AI First” ซึ่งจะใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ขับเคลื่อนการพัฒนาการธนาคาร โดยให้ความสำคัญกับมนุษย์เป็นศูนย์กลาง เพื่อยกระดับบริการและคุณภาพชีวิตและประสบการณ์ของผู้คน

เมื่อ 9 ปีที่แล้ว (ปี 2016) KBank ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญด้วยการก่อตั้ง KBTG จากการ spin-off ฝ่ายไอทีทั้งหมด ด้วยความเชื่อที่ว่าเทคโนโลยีไม่ใช่เพียงหน่วยงานสนับสนุน (back office) อีกต่อไป แต่เป็น “พันธมิตรทางธุรกิจ”ที่จะนำทัพเทคโนโลยีขับเคลื่อน KBank สู่ความเป็นเลิศ KBTG จึงมีพันธกิจหลักสองประการ หนึ่งคือการให้บริการด้านไอทีที่เป็นเลิศแก่ธนาคารกสิกรไทย และนำเสนอเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในปัจจุบันเพื่อสนับสนุนธุรกิจการเงินและการธนาคารของ KBank และสองคือการสร้างสรรค์ “ธนาคารแห่งอนาคต” (Banking of Tomorrow) ผ่าน KBTG Labs ที่ไม่หยุดนิ่งในการสำรวจพรมแดนใหม่ ๆ ของ AI และนวัตกรรมทางการเงิน

การเดินทางเพื่อตอบโจทย์ความมุ่งมั่นของ KBank ในการเป็นธนาคารระดับภูมิภาค ทำให้ KBTG ปักหมุดในจีนภายใต้ชื่อ KK Tech และในเวียดนามกับ KBTG Vietnam โดยผสานความเชี่ยวชาญด้านบล็อกเชนจากจีนเข้ากับศักยภาพด้านวิศวกรรมเทคโนโลยีจาก KBTG Vietnam ขณะที่ศูนย์กลางในประเทศไทยมีความเชี่ยวชาญด้านโมบายแบงก์กิ้ง ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และ AI แต่ KBTG ไม่หยุดเพียงเท่านั้น ยังได้แตกหน่อธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อสร้างการเติบโตและนำนวัตกรรมออกไปสร้างผลกระทบในวงกว้าง ทั้ง KX (Kasikorn X) ที่ก่อตั้งในปี 2021 เป็น Venture Builder สำหรับ Web3 และ AI เพื่อปั้นธุรกิจจากเทคโนโลยีภายในอย่าง “MAKE by KBank” ซึ่งเป็นธนาคารบนมือถือสำหรับคนรุ่นใหม่ และ “CORAL” แพลตฟอร์ม NFT ตามมาด้วย KXVC (Venture Capital) ในปี 2022 ที่มาพร้อมกองทุน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทุ่มลงทุนในเทคโนโลยี Web3 และ AI โดยวางตนเป็นประตูเชื่อมโลกเทคโนโลยีสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ช่วงปีแรก ๆ ของ KBTG คือการวางอิฐก้อนแรก ก่อร่างสร้างฐานที่มั่นคง ท่ามกลางมรสุมการเปลี่ยนแปลงทั้งจากโรคระบาด สภาวะเศรษฐกิจ และการเมือง KBTG ก็ไม่เคยหยุดนิ่งในการทรานส์ฟอร์มตัวเอง เริ่มจากการสร้างความเป็นเลิศในการดำเนินงาน (Operational Excellence) ที่เห็นผลลัพธ์ชัดเจนจากเสถียรภาพของบริการ K PLUS ที่คนไทยคุ้นเคย จากนั้นจึงยกเครื่องสถาปัตยกรรมและโครงสร้างพื้นฐานสู่ความทันสมัย (Architectural Infrastructure Modernization) ด้วยคลาวด์และสถาปัตยกรรมแบบ Cloud-Native เพื่อความยืดหยุ่น โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ

หัวใจสำคัญคือการหล่อหลอมผู้คนและวัฒนธรรมองค์กรภายใต้แนวคิด “One KBTG” ที่ทุกคนมองไปยังเป้าหมายเดียวกัน พร้อมขยายปีกสู่ภูมิภาค และเมื่อคลื่นของ Machine Learning, AI และ Data Analytics เริ่มก่อตัวชัดเจนในช่วงปี 2022-2023 KBTG ก็ไม่รอช้าที่จะเปิดฉาก “M.A.D. Transformation” นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาพลิกโฉมธุรกิจและการทำงาน ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้มหาศาลกว่า 60,000 man-days ทำงานเร็วขึ้น 2.25 เท่า สร้างผลตอบแทนทางธุรกิจ (ROI) สูงถึง 198% และที่สำคัญ พนักงานกว่า 90% มีความสุขกับงานที่ทำมากขึ้น

จุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ผลักดันให้ KBTG ก้าวสู่บทใหม่คือการมาถึงของ Large Language Model, OpenAI, ChatGPT, Deepfake และเทคโนโลยี AI อื่น ๆ ซึ่งทำให้ ดร.ทัดพงศ์ และทีมงานตระหนักว่า AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือไอที แต่คือพลังปฏิวัติองค์กรและธุรกิจโดยรวม จากความตระหนักรู้นี้เอง จึงถือกำเนิดเป็นปรัชญา “Human First, AI First”

ดร.ทัดพงศ์เน้นย้ำอย่างหนักแน่นว่า “แม้ AI จะเป็นสิ่งแรกที่เราพิจารณาในทุกกระบวนการ แต่สิ่งที่ต้องมาก่อนและอยู่เหนือกว่า AI เสมอคือ ‘มนุษย์’ ทุกนวัตกรรม ทุกการเปลี่ยนแปลงที่เราทำ ต้องทำให้ลูกค้า พนักงาน และพันธมิตรของเรา มีชีวิตที่ดีขึ้น ได้รับการเสริมพลัง และมีความสุขอย่างแท้จริง” นี่คือคำมั่นสัญญาที่ KBTG ตั้งเป้าจะเป็นองค์กร AI-First เต็มรูปแบบภายในปี 2027

ผลงาน AI ปี 2024: นวัตกรรมจับต้องได้และความร่วมมือระดับโลก

ภาพของวิสัยทัศน์ “Human First, AI First” เริ่มชัดเจนขึ้นจากความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมในปี 2024 KBTG ไม่เพียงส่งมอบโครงการวิเคราะห์ข้อมูลให้ KBank กว่า 80 โครงการ และเริ่มเห็นดอกผลจากผลิตภัณฑ์ AI ที่ออกสู่ตลาดภายนอก แต่ยังได้เปิดตัวนวัตกรรม AI ที่สร้างแรงกระเพื่อมในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็น AI Coding Assistance ที่ช่วยให้นักพัฒนาเขียนโค้ดได้เร็วขึ้น 20-50% และกำลังจะกลายเป็นเครื่องมือมาตรฐานทั่วทั้งองค์กร การสร้าง “THaLLE” ซึ่งเป็น LLM ภาษาไทยที่ KBTG พัฒนาขึ้นเองจนผ่านการทดสอบตามมาตรฐานสำคัญระดับสูงของไทย และการก่อกำเนิดของ “Athena” แพลตฟอร์ม Multi-agent อัจฉริยะที่ช่วยสร้างและควบคุม Agent ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ KBTG ยังจับมือกับ AI Fund ของ Andrew Ng กูรู AI ระดับโลก เพื่อร่วมกันพัฒนาต้นแบบเทคโนโลยี และยังคงแบ่งปันความรู้สู่ชุมชนวิชาการผ่านการตีพิมพ์ผลงานวิจัยในการประชุม AI ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง

แต่หัวใจของการขับเคลื่อนทั้งหมดนี้ ดร.ทัดพงศ์ย้ำว่าอยู่ที่ “คน” KBTG จึงทุ่มเทอย่างมหาศาลเพื่อติดอาวุธทางปัญญาให้พนักงานทุกคน โดยพนักงานทั้ง 2,600 คน ได้ผ่านการฝึกอบรมความรู้พื้นฐานด้าน AI ครบถ้วน 100% และมีการปั้น AI Engineers ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางกว่า 300 คน ผ่านหลักสูตรเข้มข้นภายในองค์กร มีการจัด AI Hackathons เพื่อจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ และก่อตั้ง AI Council (หรือ KDI Council) เปรียบเสมือนสภา AI ที่รวมผู้นำจากทุกภาคส่วนมาช่วยกันขับเคลื่อนการนำ AI ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดทั่วทั้งองค์กร ตัวอย่างการนำ AI มาใช้จริงที่ช่วยยกระดับการทำงานก็มีให้เห็นหลากหลาย เช่น Data Analytics Agent (JDA) ที่ทำให้ทุกคนสามารถคุยกับข้อมูลและได้คำตอบโดยไม่ต้องผ่านนักวิเคราะห์ HR Chat Agent ที่เป็นผู้ช่วยตอบคำถามด้านบุคคลากร ทำให้ทีม HR มีเวลาโฟกัสงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น และการใช้ AI ในกระบวนการ Software Quality Management กว่า 15 โครงการเพื่อสร้างซอฟต์แวร์คุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

วิสัยทัศน์ของ KBTG ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในโลกการเงินเท่านั้น แต่ยังมุ่งสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมในวงกว้าง ดังเช่นโครงการ “Future You” ที่ร่วมพัฒนากับ MIT Media Lab สร้างสรรค์ Virtual Human ให้ผู้คนได้เห็นภาพอนาคตของตัวเองในอีก 20-30 ปีข้างหน้า เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการดูแลการเงินและสุขภาพ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากผู้ใช้งานกว่า 60,000 คนในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก

มองไปยังอนาคตอันใกล้นับจากนี้ KBTG วางหมุดหมายที่ท้าทายยิ่งขึ้น โดยจะนำ AI และ GenAI เข้าไปยกระดับกระบวนการหลักของธนาคารอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การประเมินความเสี่ยงสินเชื่อ การขายและการตลาด ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ไปจนถึงการบริหารสินทรัพย์และการติดตามหนี้ ในโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์ KBTG กำลังเปลี่ยนจาก AI Coding Assistance ไปสู่ Coding Agent ที่ AI สามารถเขียนโค้ดได้เอง และมุ่งหน้าสู่ Multi-agent SDLC ที่ AI จะเข้ามามีบทบาทในการทดสอบและดูแลรักษาซอฟต์แวร์ร่วมกับมนุษย์อย่างใกล้ชิด โดยมี “Athena” เป็นแพลตฟอร์มกลางในการสร้างและควบคุมเหล่า Agent อัจฉริยะเหล่านี้ (มีการกล่าวถึง “Rabbit” ซึ่งอาจเป็นชื่อโครงการพัฒนาระบบ Agent ภายใน) พร้อมตั้งเป้าปั้น MVP ใหม่ ๆ ให้ได้อีก 40 โครงการ และผลักดันโครงการเดิมที่ประสบความสำเร็จให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง

ความสำเร็จและการเติบโตทั้งหมดนี้ ดร.ทัดพงศ์ย้ำว่าไม่ใช่ผลงานของ KBTG เพียงลำพัง แต่เป็นผลพวงจากพลังของระบบนิเวศและความร่วมมืออันแข็งแกร่งกับทุกภาคส่วน ตั้งแต่ KBank บริษัทแม่ พันธมิตรด้านการวิจัย สถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ พันธมิตรทางธุรกิจ และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ

“KBTG คือส่วนหนึ่งของ KBank เราภาคภูมิใจในความสามารถในการปรับตัว การเปลี่ยนแปลง และการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อสร้างคุณค่าและความเป็นอยู่ที่ดีให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน” ดร.ทัดพงศ์กล่าวสรุป “เราเชื่อมั่นว่า AI คือกุญแจสำคัญ แต่ AI สำหรับเราไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่คือการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรม ผู้คน และโมเดลธุรกิจ ด้วยจิตวิญญาณ ‘Human First, AI First’ ปีนี้จะเป็นปีที่เราจะฝังความอัจฉริยะของ AI เข้าไปในแกนกลางของทุกสิ่งที่เราทำ ทั้งในธุรกิจธนาคารและการดำเนินงานไอที แพลตฟอร์มที่แข็งแกร่งคือหัวใจสำคัญ และความร่วมมือกับพันธมิตรอย่าง Forward จะเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญ ที่จะช่วยให้เราส่งมอบความเป็นเลิศ ปลดล็อกศักยภาพของ AI และยกระดับบุคลากรของเราให้เป็นผู้สร้างสรรค์เทคโนโลยี เพื่อสร้างระบบนิเวศระดับโลกที่เป็นประโยชน์ต่อลูกค้า ประเทศชาติ และสังคม”